ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมากรุงเทพกลายเป็นพื้นที่มีฝุ่นหน้าแน่นที่สุดของประเทศไทย รองลงมาจากจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าฝุ่น PM 2.5 ถือเป็นฝุ่นมลพิษที่มีความอันตรายต่อร่างกาย มีสารประกอบที่ก่อให้เกิดมะเร็ง มีขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งเป็นขนาดเล็กกว่าฝุ่นธรรมดาทั่วไปอย่างมาก ทำให้ร่างกายของเราสามารถกรองฝุ่นที่เล็กขนาดนี้ได้ ทำให้มันไปสะสมในร่างกายจนก่อให้เกิดอันตราย ปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีป้องกันฝุ่นชนิดนี้ให้หมดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทางจังหวัดกรุงเทพมหานครเองก็ระดมรถฉีดน้ำตามจุดต่างๆ เพื่อให้ดักจับฝุ่นในอากาศแต่ก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีระดับ AQI (มาตฐานคุณภาพอากาศระดับสากล) อยู่ที่ 120 – 150 ถือว่าอยู่ในระดับที่ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ” หากสูงกว่า 200 จะเรียกว่าอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก ประชาชนทุกคนไม่ควรออกมาด้านนอกโดยไม่จำเป็น และต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้งเมื่อออกมาเดินในที่สาธารณะ หลังจากความพยายามอย่างหนักของทางกรุงเทพไม่ว่าจะเป็นฉีดน้ำ หรือ การทำฝนหลวงก็ดูเหมือนจะช่วยบรรเทาไปได้เล็กน้อยก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมในวันถัดไป สำหรับจุดที่สุ่มเสี่ยงสุดภายในกรุงเทพมหานครได้แก่ เขตบางนา, เขตดินแดง, เขตบางขุนเทียน, เขตวังทองหลาง, เขตบางกะปิ ที่วัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้สูงสุด 100 AQI

วิธีการเอาตัวรอดในภาวะมลพิษ

สำหรับคนที่ต้องทำงานบนกรุงเทพฯ คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะออกไปด้านนอก แนะนำให้ใช้หน้ากากอนามัยแบบ N95 ที่สามารกรองละอองฝุ่น PM 2.5 ได้มากถึง 95% หาซื้อได้ในราคาประมาณ 30 – 40 บาท/แผ่น เนื่องจากความต้องการในตลาดสูงทำให้ของขาดตลาด อาจเลือกใช้หน้ากากแบบอื่นมาแทนได้เช่นกัน คือ P95 หรือ R95 ราคา 140 บาท เป็นชนิดที่มีคุณสมบัติเพิ่มเติมเข้ามา สามารถใช้แทนกันได้เพียงแต่จะเป็นตัวที่ป้องกันฝุ่นที่ปนเปื้อนน้ำมันในอากาศโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีแบบที่เรียกว่า N97 และ N100 เป็นรุ่นที่ระดับสูงขึ้นไปอีกราคาก็จะแพงมากขึ้นตามไปด้วยตั้งแต่ 200 – 300 บาท สำหรับใช้ในงานที่มีความเสี่ยงสูง

หากไม่สามารถหาหน้ากากอนามัยประเภท N95 ได้สามารถใช้หน้ากากอนามัยทั่วไปซ้อนกันตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป จะช่วยกรองได้ดีขึ้นในระดับหนึ่ง มันไม่สามารถใช้ป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนกับ N95 อย่างน้อยก็ใช้จนกว่าจะหาซื้อตัวอื่นมาทดแทนได้ แหล่งที่หาซื้ออุปกรณ์ประเภทนี้ได้ครบสุดคือตามร้านอุปกรณ์ก่อสร้างอย่าง Hardware House, HomePro และไทวัสดุ เนื่องจากคนส่วนใหญ่เลือกซื้อผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ทำให้ไม่ทันสั่งซื้อก็หมดไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง