
B-52 บรรดาเซียนต่างๆ ต้องเคยผ่านกันมาบ้างแล้ว อาจจะรู้จักในชื่อ “BiFi” หรือ “Bifty” ค็อกเทลช็อตกาแฟเหล้า ไอริชครีม และ Grand Marnier เมื่อเตรียมอย่างถูกต้องส่วนผสมแยกจะออกเป็นสามชั้นที่มองเห็นอย่างได้ชัดเจน มาเท้าความถึงประวัติเจ้าของผู้คิดค้นกันหน่อยกับ “Peter Fich” ผู้มีอาชีพเป็นบาร์เทนเดอร์ในโรงแรม Banff Springs Hotel เขามักจะตั้งชื่อสูตรตามชื่อวงดนตรี, อัลบั้ม หรือ ชื่อเพลง ลูกค้าคนแรกๆ ที่สั่ง B-52 เป็นเจ้าของร้านอาหารหลายแห่งใน Ablerta ซึ่งเขาชอบดื่มมันมากจนต้องเอาไปใส่ไว้ในเมนู
มีอีกข่าวลือหนึ่งว่ามันถูกคิดโดยบาร์เทนเดอร์ใน New York ชื่อ “Adam Honigman” แต่ก็ไม่ได้มีหลักฐานอะไรมายืนยันความจริง ไม่นานมันก็กลายเป็นที่นิยมเป็นวงกว้าง ถูกนำมาดัดแปลงในหลายรูปแบบที่แตกต่างกันเล็กน้อย ในปี 2009 มันกลายเป็นค็อกเทลขวัญใจคนลอนดอนมากที่สุด มีอีกเหตุการณ์หนึ่งในปลายปี 2009 เมื่อกองหน้าอาร์เซนอล Nicklas Bendtner เปลี่ยนหมายเลขเสื้อของเขาจาก 26 เป็น 52 ทำให้ได้รับฉายา “B52” ไปตามระเบียบ
ถึงแม้ว่าเดียวนี้จะมีเครื่องที่ช่วยเตรียมเจ้า B-52 ได้ภายในไม่กี่วินาที แต่สำหรับบาร์เทนเดอร์ระดับมืออาชีพเลือกที่จะทำด้วยมือมากกว่า เขาจะเสิร์ฟเป็น “แก้วชอต” หรือ “แก้วเชอร์รี่” อย่างไรก็ตามถ้าจะจุดไฟด้วยต้องใช้แก้วที่ทนความร้อน อันดับแรกจะเริ่มใส่ชั้นกาแฟ ชั้นถัดไปจะใส่ไอริชครีม ขั้นตอนนี้จะใช้ความระมัดระวังอย่างมากเพื่อไม่ให้ไปทำชั้นล่างเละ ในตอนสุดท้ายก็ต้องระวังเช่นเดียวกันเมื่อเทชั้นสุด Grand Marnier ลงบนไอริชครีมโดยใช้ช้อนบาร์ เท่านี้ก็ถือเป็นอันเสร็จการเตรียมพร้อมเสิร์ฟได้ทันที
ค๊อกเทลไฟลุก!!
นักดื่มส่วนใหญ่มักจะนิยมจุดไฟบน B52 ทำให้ได้เปรวไฟสีน้ำเงินโชดช่วงอยู่บนแก้วค๊อกเทล วิธีดื่มส่วนใหญ่มักจะดื่มผ่านหลอดทันทีหลังจากเสิร์ฟ เมื่อจุดไฟแล้วจะต้องดื่มในทันทีไม่งั้นมันจะร้อนจนดื่มไม่ได้ ถ้าเกิดว่าไฟรอจนไฟดับไปแล้วอาจต้องใช้หลอดที่ไม่ละลาย เช่นหลอดสแตนเลสระหว่างกินให้ระมัดระวังเพราะแก้วอาจแตกได้ การจุดไฟเจ้า B52 อาจไม่ใช่เรื่องง่าย มันอาจต้องใช้ เหล้ารัม 65-85% อย่าง บาคาร์ดี้ 151 หรือสโตร 160 จะช่วยให้ไฟติดง่ายขึ้น
เนื่องจากความแรงปราบเซียนของเจ้า B-52 ถูกใจคนไทยเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดความนิยมไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะกับนักดื่มตัวยงที่อยากจะมาลองของแรงขอบอกว่าไม่เกิน 3 ช็อตก็ลงไปมอบกันง่ายๆ มันไม่ใช่ของใหม่อะไรมากนัก แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักหรือบางคนอาจไม่กล้าลอง ของแบบนี้มันต้องลองซักครั้งเป็นประสบการณ์ชีวิต ถ้าคุณพร้อมจะไปลองแล้วล่ะก็ อย่าลืมเตรียมเพื่อนไว้แบกคุณกลับบ้านด้วยแล้วกัน